หมากฝรั่ง ความรัก และพลังของเรื่องเล่า #7
ผมได้กลับมาอัดคลิปอีกแล้ว สนุกมากๆ เลยครับ
สวัสดีครับทุกคน,
หวังว่าอาทิตย์นี้ของทุกคนจะเป็นอาทิตย์ที่ดีนะครับ
วันนี้อยากจะคุยเรื่องเกี่ยวกับ พลังของการเล่าเรื่องให้ทุกคนฟังกันครับ ผมเชื่อว่าเรื่องนี้มีประโยชน์มากๆ กับเราทุกคนไม่ว่าเราจะเป็นคนที่ทำคอนเทนต์ หรือทำงานทั่วไปก็ตาม เพราะมนุษย์ทุกคนล้วนต้องสื่อสารกันอยู่ตลอดเวลา นั่นหมายความว่าทุกคนสามารถที่จะใช้ พลังของการเล่าเรื่อง เข้ามาช่วยเปิดโอกาสดีๆ ต่างๆ ในชีวิตของเราได้อย่างแน่นอนครับ
เรามาเริ่มกันที่คลิปวีดีโอตัวนี้กันก่อนครับ ดูให้จบนะครับใช้เวลานิดเดียวแล้วค่อยอ่านต่อกัน
หมากฝรั่งเอ็กตรา เจอปัญหายอดขายลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะมีหมากฝรั่งยี่ห้อใหม่ๆ ออกมาขายในตลาดมากมาย และการทำตลาดในช่วงเวลานั้นก็เหมือนกับการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เพราะทุ่มลงไปเท่าไหร่ ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผลลัพธ์ หรือยอดขายที่ต้องการสักที
และหลังจากที่ทีมการตลาดทำการวิเคราะห์กลุ่มลูกค้า พบว่าช่วงเวลาที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อหมากฝรั่งนั้นน้อยกว่า 2 วินาที และส่วนใหญ่การซื้อเกิดขึ้นโดยที่คนเหล่านั้นไม่รู้ตัวอีกด้วย นั่นหมายความว่า คนซื้อไม่ได้ให้ความสำคัญที่รสชาติ หรือยี่ห้อมากนัก ทีนี้ทีมงานก็เลยคิดว่า จะทำยังไงให้คนซื้อหมากฝรั่งคิดถึงเอ็กตราก่อนที่จะหยิบไปจ่ายเงิน
สุดท้ายสิ่งที่เอ็กตราทำก็คือ การเล่าเรื่อง
เรื่องราวในคลิป youtube ที่ดูไปก่อนหน้านี้คือ เรื่องเล่าของความรักในวัยหนุ่มสาว ซึ่งเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่จะเคยผ่านประสบการณ์คล้ายๆ กันนี้ เราต่างมีความทรงจำเกี่ยวกับความรัก และสิ่งนี้ก็ทำให้เรามีความรู้สึกร่วมกับคลิปที่ดู ตลอดทั้งเรื่องนี้ เอ๊กตราไม่ได้คุยว่าหมากฝรั่งของตัวเองรสชาติดี หรือเคี๊ยวอร่อยเลย หมากฝรั่งเป็นเพียงสิ่งหนึ่งที่เราได้เห็นในเรื่องเท่านั้น
และมันก็ได้ผล คลิปนี้เป็นโฆษณาในปี 2015 ซึ่งช่วยให้คนทั่วไปจดจำหมากฝรั่งเอ็กตราได้ และพวกเขาก็คิดถึงโฆษณานี้ก่อนที่จะหยิบหมากฝรั่งมาจ่ายเงิน นอกจากจะทำให้ผู้คนจดจำสินค้าได้เป็นอย่างดีแล้ว โฆษณาตัวนี้ยังถูกโหวตทาง youtube ให้เป็น “โฆษณาแห่งปี” อีกด้วย
เรื่องของการทำโฆษณาจากการเล่าเรื่องของหมากฝรั่งเอ็กตรา เป็นตัวอย่างหนึ่งที่อยู่ในหนังสือที่ชื่อ Stories That Stick ชื่อไทยคือ อยากขายดี สตอรี่ต้องโดน เขียนโดยคุณ Kindra Hall ซึ่งเธอเป็นสุดยอดนักเล่าเรื่องระดับแชมป์โลกเลยนะครับ (ขอขอบคุณสำนักพิมพ์ Bingo ที่ส่งหนังสือดีๆ มาให้อ่านด้วยครับ)
และในหนังสือเล่มนี้ คุณ Kindra ยังแนะนำเทคนิคการเล่าเรื่องในแบบต่างๆ ที่เราสามารถที่จะหยิบจับมาใช้งานให้เหมาะกับสิ่งที่เราต้องการได้ ไม่ว่าเราจะเป็นคนทำคอนเทนต์ที่ต้องการให้ผู้ติดตามประทับใจกับเรื่องราวของเรา หรือการนำไปประยุกข์ใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนองาน หรือโปรเจ็กสำคัญต่างๆ เราสามารถใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ได้มากมายเลยนะครับ เพราะทุกการสื่อสารคือเรื่องเล่า และการที่เราสามารถเล่าเรื่องให้ดีได้ โอกาสต่างๆ ก็จะเปิดรับเรามากยิ่งขึ้น
ส่วนตัวผมเอง ชอบเรียนรู้เรื่องการเล่าเรื่องอยู่แล้ว และสนใจพัฒนาเรียนรู้การเป็น StoryTeller อยู่เสมอๆ และหนังสือเล่มนี้ก็ให้คำแนะนำที่ดีมากๆ เลยครับ ใครสนใจอยากพัฒนาเรื่องการเล่าเรื่อง ลองหามาอ่านกันได้เลยครับ แนะนำ!
คุณยูวัล โนอาห์ ฮีรารี ผู้เขียนหนังสือ Sapaiens เขาบอกในหนังสือของเขาเอาไว้ว่า ที่มนุษย์โฮโมเซเปียนส์หรือเผ่าพันธ์ของเราอยู่รอดมาจนถึงปัจจุบัน เพราะเรามีการเล่าเรื่อง ทำให้เราไม่จินตนาการถึงสิ่งต่างๆ เพียงคนเดียว แต่เป็นการลงมือทำร่วมกัน การเล่าเรื่องจะช่วยทำให้คนแปลกหน้าหลายล้านคนร่วมมือกัน และทำงานร่วมกันเพื่อทำเป้าหมายเดียวกันจนสำเร็จ..
และนี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่สำคัญนะครับ ที่เราควรจะเรียนรู้เรื่องการเล่าเรื่องให้เก่ง..
ผมได้ลองใช้เทคนิคจากหนังสือเล่มนี้ในการเขียนโพสของตัวเอง ก็ไม่แน่ใจนักนะครับว่าพอจะเรียกว่าดี หรือใช้ได้ไหม แต่ส่วนตัวผมเองรู้สึกสนุกกับการได้กลับไปหาเรื่องราวในอดีตที่ปกติผมมักจะลืมมันไปหมดแล้ว งัดแงะ เสาะหา เอาออกมาทำเป็นเรื่องเล่าของตัวเอง และเชื่อมโยงกับประเด็นบางอย่างที่อยากพูดถึง เพื่อนๆ สามารถติชมได้นะครับ (ขอบคุณครับ)
หัวใจของการให้ พลังงานดีๆ ที่คนสร้างตัวตนต้องมี
คริสและแฟนสาวชื่อมาร์ติน่า ทั้งสองเป็นชาวสวิสเซอร์แลนด์ที่มาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ คริสเองพบว่าตัวเองนั้นได้ทำที่ชาร์จแบตเตอรี่ของ Palm V (คล้ายๆ Smartphone ในสมัยนี้) คู่ชีพหายไป และในนั้นมีข้อมูลสำคัญที่เขาจำเป็นต้องใช้ตลอดช่วงเวลาที่อยู่เชียงใหม่
ออกกำลังไปพร้อมกับการทำคอนเทนต์
ช่วงนี้ผมกลับมาสนุกกับการถ่ายคลิปอีกแล้วครับ ช่วงหนึ่งที่ผ่านมาผมจัดการเวลาอะไรได้ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่เลย ทำให้สิ่งที่อยากจะทำหรือชอบที่จะทำต้องตัดเอาออกไป เพื่อให้เวลากับสิ่งที่ต้องทำจริงๆ
หนึ่งในสิ่งที่ผมต้องทำ และต้องจริงจังก็คือ การพาตัวเองมาออกกำลังให้ได้ ผมเริ่มจากการเดินตอนเช้า และตอนนี้พัฒนามาเป็นการวิ่งได้แล้ว อย่างที่กูรูหลายๆ คนบอกเอาไว้นะครับ การออกกำลังทำให้ความเครียดเราลดลง และทำให้ตลอดทั้งวันสมองปลอดโปร่ง และอาจจะเป็นเพราะความปลอดโปร่งนี้ก็ได้ ที่ทำให้ผมได้ไอเดียดีๆ และกลับมาสนุกกับการถ่ายคลิปอีกครั้ง โดยไม่รู้สึกว่าเสียเวลาทำงานอย่างอื่นมากจนเกินไป
ผมเอาสิ่งที่ต้องทำและสิ่งที่อยากทำมารวมกันในช่วงเวลาเดียว โอ้ววว จีเนียสมาก ทอมมี่!! ฮ่า
ช่วงเช้าผมออกไปวิ่ง ผมก็จะเตรียมเรื่องราวหรือคอนเทนต์ที่อยากทำในแบบสั้นๆ และช่วงที่ออกไปวิ่งก็หาจังหวะที่จะอัดคลิปเรื่องที่อยากเล่าไปด้วย ก็ถ่ายทำแบบง่ายๆ นะครับ คนดูก็เห็นว่าเรามาออกกำลังอยู่แล้ว คงไม่ได้คาดหวังกับหน้าตา ผมเผ้าว่าต้องเป๊ะ ต้องหล่ออะไรเท่าไหร่ เรียกว่าเป็นแนว เพื่อนเล่าให้เพื่อนฟังอะไรแบบนี้ สบายๆ เดินไปคุยไป อารมณ์เหมือนการ Vlog ซึ่งผมทำมาได้สองตอนแล้วนะ บอกเลยว่ามีความสุขมากๆ เลยครับ ส่งผลให้การทำงานๆ ต่างๆ ในแต่ละวันดีขึ้นตามไปด้วย
ขอบคุณที่ติดตามกันนะครับ
ฉบับนี้ลากันไปก่อนนะครับ
Happy Fri-YAY ครับ 🎉
Tommy